2295 จำนวนผู้เข้าชม |
ท้องเสียท้องร่วงคือการถ่ายเหลวหรือถ่ายเป็นน้ำ เป็นอาการที่พบได้ทั่วไป มีสาเหตุจากการรับประทานอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อโรค โดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อนที่อาหารบูดเสียง่าย ทำให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษ หรือมีสาเหตุมาจากการแพ้อาหาร การรับประทานยาบางชนิด การติดเชื้อ หรือโรคอื่นๆ
เมื่อท้องเสียท้องร่วงแล้ว คุณผู้อ่านอาจจะเกิดข้อสงสัยตามมาว่า ควรจะรับประทาน หรืองดรับประทานอาหารแบบไหน ถ้าหากต้องทานยา ควรเป็นยาแบบไหน แล้วถ้าคนท้องเสียเป็นทารกหรือเด็ก ผู้ปกครองควรจะทำอย่างไรดี ทีมงาน CKKQEUIPMED จึงรวบรวมคำถามยอดฮิตมาตอบในบทความนี้ครับ
เมื่อท้องเสีย หลายคนอาจจะเข้าใจว่าควรงดรับประทานอาหาร ซึ่งไม่จำเป็น ร่างกายยังคงต้องการสารอาหารจำเป็น การขาดเกลือแร่และน้ำจะยิ่งทำให้ร่างกายอ่อนเพลียและอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ คนที่มีอาการท้องเสียจึงควรบริโภคอาหารและเครื่องดื่มต่างๆ ตัวอย่างเช่น
นอกจากนี้ ยังสามารถรับประทานเนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อวัว เนื้อปลา ไข่สุก รวมถึงผักสุก เช่น เห็ด แครอท ที่ไม่ทำให้เกิดแก๊ส
อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ป่วยที่ท้องเสียเรื้อรัง ควรค้นหาว่า สาเหตุที่ทำให้ท้องเสียคืออะไร ถ้าหากมีสาเหตุมาจากอาหารประเภทใดประเภทหนึ่ง ก็ควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภทนั้น แต่การกินอาหารที่มีเส้นใยอาหารสูง เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืช และอาหารที่มีไขมันต่ำ ก็มักจะช่วยบรรเทาอาการท้องเสียแบบเรื้อรังให้ดีขึ้น
เมื่อท้องเสีย สามารถรับประทานผงเกลือแร่ผสมน้ำหรือยาดังต่อไปนี้เพื่อช่วยบรรเทาอาการ
ยาชนิดนี้มีผงถ่านเป็นส่วนประกอบ จึงอาจจะช่วยดูดซับสารพิษ บรรเทาอาการแน่นท้องและการถ่ายเหลว แต่ไม่สามารถกำจัดเชื้อโรคที่เป็นสาเหตุให้เกิดอาการท้องเสีย เพราะฉะนั้นจึงไม่สามารถรับประทานเป็นยาหยุดถ่ายได้
นอกจากนั้น ยาผงถ่านไม่ควรรับประทานร่วมกับยาชนิดอื่น เพราะอาจจะดูดซับยาเหล่านั้นเข้าไปด้วย ควรเว้นระยะเวลา 2 ชั่วโมงระหว่างการรับประทานยาชนิดอื่น กับยาผงถ่าน
ยาชนิดนี้ช่วยบรรเทาอาการท้องเสียได้ โดยตัวยาจะทำให้ทางเดินอาหารขับสารคัดหลังน้อยลงและลดการเคลื่อนไหว รวมทั้งทำให้กลั้นอุจจาระได้มากขึ้น แต่ถ้าเป็นการท้องเสียที่เกิดจากการติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร ควรหลีกเลี่ยงยานี้เพราะจะทำให้ของเสียหรือเชื้อโรคคงอยู่ในทางเดินอาหารเป็นระยะเวลานานกว่าเดิม จึงควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยา
นอกจากนี้ ยาโลเพอราไมด์ไม่ควรใช้กับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 12 ปี และมีรายงานว่า ยาโลเพอราไมด์ หากรับประทานในปริมาณมาก อาจทำให้เกิดความผิดปกติต่อหัวใจได้ จึงไม่ควรรับประทานเกินขนาดที่แนะนำ
โดยส่วนใหญ่แล้ว อาการท้องเสียมักจะบรรเทาได้เองภายใน 5-7 วัน โดยไม่ต้องรับประทานยาหรือรับการรักษา แต่ถ้าหากอาการยังคงอยู่หลังจากผ่านไปหลายวัน (2 วันสำหรับเด็ก หรือ 5 วันสำหรับผู้ใหญ่) หรือมีอาการรุนแรง เช่น ถ่ายท้องเป็นจำนวนมากและไม่หยุด ถ่ายเป็นมูกเลือด มีไข้ ก็ควรรีบพบแพทย์
เมื่อท้องเสีย มีอาหารบางประเภทที่ผู้ป่วยควรจะเลี่ยง เพราะเสี่ยงทำให้ระบบการย่อยอาหารฟื้นตัวช้าลง หรือมีอาการท้องเสียรุนแรงขึ้น เช่น
เด็กมักจะท้องเสียบ่อยกว่าผู้ใหญ่ โดยอาจจะเกิดจากการติดเชื้อ เช่น ไวรัสโรต้า ซึ่งพบได้บ่อยขึ้นเมื่อสภาพอากาศเย็นลง อาหารเป็นพิษ การแพ้อาหาร โรคชนิดต่างๆ หรือเกิดจากยา
เมื่อเด็กท้องเสีย ควรระวังไม่ให้ขาดน้ำ โดยเฉพาะเมื่อถ่ายท้องบ่อยๆ ทำให้เกิดการสูญเสียน้ำเป็นปริมาณมาก จึงควรดื่มน้ำให้เพียงพอ
ในขณะเดียวกัน เด็กยังควรรับประทานอาหารโดยอาจแบ่งเป็นมื้อปริมาณน้อยย่อยๆ มากกว่า 3 มื้อ และอาจรับประทานอาหารย่อยง่ายเป็นหลัก เช่น ข้าวต้ม และควรหลีกเลี่ยงอาหารทอด ของมัน น้ำผลไม้ นม น้ำอัดลม และเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนขณะที่ยังท้องเสียอยู่
สำหรับเด็กที่อายุต่ำกว่า 12 ปี ไม่ควรใช้ยาหยุดถ่าย
ควรรีบพาเด็กไปพบแพทย์เมื่อมีอาการดังต่อไปนี้
ถ้าหากทารกถ่ายเป็นปริมาณมากกว่าปกติหรือถ่ายเหลว และบ่อยกว่าปกติ มักจะหมายความว่าทารกกำลังท้องเสีย ทารกมีโอกาสท้องเสียได้บ่อย โดยอาจเกิดจากสาเหตุต่างๆ เช่น
หากทารกท้องเสีย ก็ยังควรให้ดื่มนมแม่ตามปกติ ส่วนทารกที่ดื่มนมขวด ก็ให้ดื่มตามปกติ เพื่อให้ทารกไม่ขาดน้ำ
ควรเปลี่ยนผ้าอ้อมของทารกบ่อยครั้ง เพื่อลดโอกาสที่ทารกจะเกิดผื่นผ้าอ้อม
หากทารกมีอาการดังนี้ ควรพาไปพบแพทย์ทันที